หนึ่งในปัญหาของคนที่ใช้งานโทรศัพท์มือถือก็คงจะเป็นเรื่องแบตเตอรี่ที่ใช้งานไปสักพักก็มักจะเสื่อมเร็ว หรือแบตเตอรี่หมดเร็วทั้งที่ใช้งานไปได้ไม่กี่ชั่วโมง ทำให้หลายคนถามไถ่กันมาว่าพอจะมีวิธีไหนที่แก้ปัญหาเหล่านี้ได้บ้าง วันนี้เราก็ได้รวบรวม 5 สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วมาฝาก พร้อมด้วยวิธีแก้ไขที่คิดว่าน่าจะพอช่วยบรรเทาได้บ้าง
ข่าวมือถือ 5 สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว
1. หน้าจอสว่างเกินไปจนกินแบตเตอรี่
บางคนนำมือถือไปใช้งานกลางแจ้งแล้วมองไม่เห็น ทำให้ต้องเปิดความสว่างหน้าจอสูงสุด หรือบางคนที่เคยชินกับการใช้งานหน้าจอที่ต้องมองเห็นชัด ๆ เลยต้องปรับหน้าจอให้มีความสว่างมากที่สุด การทำแบบนั้นยิ่งทำให้แบตเตอรี่หมดเร็ว วิธีแก้ เลือกปรับความสว่างให้เหมาะสม หรือจะเลือกเปิดความสว่างแบบอัตโนมัติก็จะดีนะ
2. เปิดแอปพลิเคชันค้างเอาไว้แม้ไม่ได้ใช้งาน
มีหลายคนเลยที่เปิดใช้งานแอปพลิเคชันแล้วกดออกมาที่หน้า HOME ทันที แบบที่ยังไม่ได้ปิดแอปนั้น ๆ รู้หรือไม่ว่า ถึงแม้เราจะมองไม่เห็น แต่แอปก็ยังคงทำงานอยู่เบื้องหลังตลอดเวลา กินทั้งแบตเตอรี่ กินพื้นที่ของเครื่อง รวมไปถึง CPU ก็ยังถูกใช้งานอยู่ตลอด แล้วแบตเตอรี่จะไม่หมดเร็วได้ยังไง วิธีแก้ แนะนำให้ Restart เครื่องทุกเช้า หากเราไม่แน่ใจว่าแอปพลิเคชันไหนยังเปิดอยู่บ้าง หรือถ้าพอรู้ หรือนึกได้ก็ขอให้ปิดแอปหลังจากใช้งานทันที
3. เพิ่ม Refresh Rate ของหน้าจอแบบเปล่าประโยชน์
สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ๆ เดี๋ยวนี้มีการพัฒนาเรื่อง Refresh Rate ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เรียกง่าย ๆ ก็คืออัตราการกระพริบของหน้าจอจะทำได้มากขึ้นและถี่ขึ้น จนทำให้เรารู้สึกว่าจะเปิดแอปไหน หรือเล่นเกมอะไรก็ดูลื่นดูเร็วไปซะหมด ยิ่งเปิดมากขึ้นก็ยิ่งแบตมากขึ้นด้วย วิธีแก้ ให้เราเลือก Refresh Rate ให้เหมาะสมกับการใช้งาน หรือจะเปิดใช้โหมดที่ชื่อว่า Adaptive Refresh Rate ระบบก็เลือกให้อัตโนมัติ
4. เชื่อมต่อ 5G โดยไม่จำเป็น
เทคโนโลยี 5G ถือเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ทำให้การเชื่อมต่อต่าง ๆ เร็วขึ้น ไม่ว่าจะดาวน์โหลด หรืออัปโหลดก็ไม่มีสะดุด แต่รู้หรือไม่ว่ากว่าจะได้การเชื่อมต่อที่เร็วสุด ๆ บนมือถือเรานั้น ฮาร์ดแวร์จะต้องใช้ความสามารถในการจับสัญญาณคลื่นความถี่ต่าง ๆ แล้วนำมารวมกันเป็นหนึ่งเดียว ยิ่งเร็วมากเท่าไหร่ ฮาร์ดยิ่งต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มากเท่านั้น วิธีแก้ เลือกใช้งาน 5G ให้เหมาะกับกิจกรรม หรือแอปพลิเคชันที่เรากำลังใช้งาน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็น 4G เมื่อกลับไปใช้งานในรูปแบบปกติจะช่วยประหยัดแบตได้มาก
5. เลือกโหมดใช้พลังงานที่ไม่เหมาะสม
ในมือถือแต่ละรุ่นล้วนแล้วแต่มีโหมดที่สามารถเรียกใช้พลังงานได้ถึงขีดสุด ทำให้เร็ว แรง และลื่นไหลไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมไหน จะดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม แต่สิ่งเหล่านั้นก็ต้องแลกมากับเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ที่สูญเสียไป วิธีแก้ หากอยากให้มือถือสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน หรือไม่มีกิจกรรมอะไรที่ต้องใช้พลังการประมวลผลมากเป็นพิเศษ แนะนำให้เลือกเปิดโหมดประหยัดพลังงานจะดีที่สุด