Temu อีคอมเมิร์ซจีน เปิดตัวในไทย อัดโปรแรง ส่งไว-ลดสูงสุด 90%

Temu

Temu เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย

Temu แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากจีน ได้ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อเร็วๆ นี้ สร้างความตื่นเต้นในตลาดการค้าออนไลน์ ด้วยราคาสินค้าที่ถูกสุดและการส่งตรงจากโรงงานในจีน Temu เป็นบริษัทในเครือของ PDD Holdings เจ้าของ Pinduoduo แม้จะมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ไอร์แลนด์และจดทะเบียนในตลาดหุ้น NASDAQ ของสหรัฐฯ แต่ยังคงเป็นที่รู้กันว่าเป็นบริษัทจีนโดยแท้

การขยายตัวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม Momentum Works บริษัทให้คำปรึกษาทางธุรกิจในสิงคโปร์ เปิดเผยว่า Temu ได้เปิดให้บริการในไทยอย่างเงียบๆ เป็นประเทศที่ 3 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่ได้บุกตลาดฟิลิปปินส์และมาเลเซียในปี 2566 นี้ โดยเว็บไซต์ Temu ที่ให้บริการในไทย มีการจำหน่ายสินค้าข้ามพรมแดนหลากหลายประเภท มาพร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 90% และชูจุดเด่นเรื่องการส่งสินค้าอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาส่งจากมณฑลกว่างโจว ประเทศจีน มากรุงเทพฯ ไม่เกิน 5 วันเท่านั้น

การแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซไทย

รายงาน “Ecommerce in Southeast Asia 2024” ของ Momentum Works ระบุว่า มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยในปี 2566 อยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตจากปีก่อน 34.1% มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาค รองจากอินโดนีเซีย ในปี 2566 ช้อปปี้ (Shopee) ครองส่วนแบ่งตลาดอีคอมเมิร์ซในไทย 49% ตามมาด้วย ลาซาด้า (Lazada) 30% และ TikTok Shop 21%

ความสำเร็จ Temu ในตลาดสหรัฐฯ

ย้อนกลับไปในปี 2565 Temu ประสบความสำเร็จอย่างมากในการบุกตลาดสหรัฐ หลังจากเปิดตัวได้ไม่กี่สัปดาห์ ยอดดาวน์โหลดของ Temu สามารถแซงหน้าแอพพลิเคชั่นในหมวดหมู่เดียวกัน เช่น แอมะซอน (Amazon), วอลมาร์ท (Walmart) และ ชีอิน (Shein) นอกจากจำหน่ายสินค้าราคาถูกและมอบโค้ดส่วนลดจำนวนมากแล้ว Temu ยังทุ่มงบการตลาดมหาศาลเพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างอย่างรวดเร็ว โดย CNBC รายงานว่าในปี 2566 Temu ใช้เงินไปกับการเผยแพร่โฆษณาระหว่างการแข่งขัน Super Bowl ราว 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นในสหรัฐเพิ่มขึ้น 45% และจำนวนผู้ใช้งานต่อวันเพิ่มขึ้น 20%

การขยายตัวของ Temu ในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงน่าจับตามอง เนื่องจากในประเทศที่ Temu เปิดให้บริการไปแล้ว ไม่มีผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซในท้องถิ่นครองส่วนแบ่งอยู่เลย ทำให้ทิศทางการขยายพื้นที่การให้บริการของ Temu ในภูมิภาคนี้ยิ่งน่าสนใจมากขึ้น