Wi-Fi Calling คืออะไร?
Wi-Fi Calling เป็นบริการที่ช่วยให้คุณสามารถโทรและส่งข้อความผ่านเครือข่าย Wi-Fi แทนการใช้สัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์ปกติ ทำให้คุณสามารถใช้งานได้แม้ในพื้นที่ที่มีสัญญาณโทรศัพท์ไม่ดี เช่น ภายในอาคารที่อับสัญญาณ โดยใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่มีอยู่ในการโทรหรือส่งข้อความ
ข้อดีของ Wi-Fi Calling
- โทรได้ในพื้นที่สัญญาณอ่อน: ช่วยให้คุณสามารถโทรได้ในสถานที่ที่สัญญาณโทรศัพท์ไม่ดี แต่มี Wi-Fi
- เสียงคมชัด: เสียงคมชัดขึ้นในบางกรณี เนื่องจากใช้เครือข่าย Wi-Fi ในการส่งข้อมูลเสียง
- ไม่ต้องใช้แอปพิเศษ: โทรผ่าน Wi-Fi โดยไม่ต้องใช้แอปแยก เช่น LINE หรือ WhatsApp
Wi-Fi Calling ใช้ยังไง?
การเปิดใช้งาน Wi-Fi Calling ขึ้นอยู่กับรุ่นของโทรศัพท์และเครือข่ายที่คุณใช้งาน ส่วนมากจะสามารถเปิดใช้ได้โดยการตั้งค่าในโทรศัพท์
วิธีตั้งค่า Wi-Fi Calling บน iPhone
- ไปที่ การตั้งค่า (Settings)
- เลือก โทรศัพท์ (Phone)
- แตะที่ การโทรผ่าน Wi-Fi (Wi-Fi Calling)
- เปิดใช้งาน การโทรผ่าน Wi-Fi บน iPhone นี้ (Wi-Fi Calling on This iPhone)
วิธีตั้งค่า Wi-Fi Calling บน Android
- เปิดแอป การตั้งค่า (Settings)
- ไปที่ เครือข่ายและอินเทอร์เน็ต (Network & Internet)
- เลือก การโทรผ่าน Wi-Fi (Wi-Fi Calling)
- เปิดใช้งาน Wi-Fi Calling
Wi-Fi Calling ใช้ที่ไหนได้บ้าง?
- ใช้ได้ทุกที่ที่มี Wi-Fi: ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือร้านกาแฟที่มี Wi-Fi คุณสามารถใช้ Wi-Fi Calling ได้
- ในต่างประเทศ: คุณสามารถใช้ Wi-Fi Calling ในต่างประเทศผ่านเครือข่าย Wi-Fi เพื่อโทรกลับประเทศบ้านเกิดโดยไม่ต้องเสียค่าโรมมิ่ง (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของเครือข่ายที่คุณใช้)
Wi-Fi Calling เสียเงินไหม?
- ในประเทศ: การโทรผ่าน Wi-Fi จะถูกคิดค่าบริการเหมือนกับการโทรผ่านเครือข่ายมือถือปกติ ซึ่งขึ้นอยู่กับแพ็กเกจโทรศัพท์ที่คุณใช้อยู่
- ในต่างประเทศ: คุณสามารถโทรผ่าน Wi-Fi โดยไม่เสียค่าบริการโรมมิ่ง แต่จะถูกคิดตามอัตราการโทรปกติของแพ็กเกจที่คุณมี
สรุป
Wi-Fi Calling ช่วยให้คุณสามารถโทรและส่งข้อความผ่าน Wi-Fi ในพื้นที่ที่สัญญาณมือถือไม่ดี คุณสามารถตั้งค่าได้ง่ายๆ บนโทรศัพท์ทั้ง iPhone และ Android ใช้ได้ทุกที่ที่มี Wi-Fi โดยค่าบริการจะคิดตามแพ็กเกจการโทรที่คุณใช้งานอยู่ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเมื่อโทรผ่าน Wi-Fi ในต่างประเทศ