การเลือกแอร์ให้เหมาะกับขนาดห้องนั้นสำคัญมาก เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีและประหยัดพลังงาน มีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา ทั้งขนาดห้อง, ประเภทของห้อง, และระดับความร้อนในห้อง มีสูตรการคำนวณ BTU (British Thermal Unit) เพื่อช่วยกำหนดขนาดแอร์ที่เหมาะสม
ประเภทของแอร์
แอร์แขวนเพดาน: กระจายความเย็นทั่วถึง, เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่
แอร์ตั้งพื้น: เหมาะกับห้องที่มีความสูงจากพื้นถึงเพดานพอดี, ไม่เหมาะกับห้องกว้างหรือเพดานสูง
แอร์ฝังฝ้าเพดาน: ประหยัดพื้นที่, กระจายความเย็นทั่วถึง, แต่มีราคาสูงและบำรุงรักษายาก
การคำนวณ BTU
ใช้สูตร: ค่า BTU = พื้นที่ของห้อง (กว้าง x ยาว) x ระดับความแตกต่าง.
ระดับความแตกต่าง ประกอบด้วยระดับความร้อนช่วงเวลากลางวันและกลางคืน, โดยห้องที่ใช้ตอนกลางวันมีระดับความต่างประมาณ 800 และห้องที่ใช้เฉพาะเวลากลางคืนมีระดับความต่างประมาณ 700
การเลือก BTU ที่เหมาะสม
ห้องขนาด 12-15 ตร.ม. ใช้ 9,000 BTU สำหรับห้องปกติและ 10-14 ตร.ม. สำหรับห้องที่โดนแดด
หากเลือก BTU แอร์สูงเกินไป อาจทำให้คอมเพรสเซอร์ตัดบ่อยเกินไป ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และเพิ่มความชื้นในห้อง
ตัวอย่างการเลือก BTU สำหรับขนาดห้องต่างๆ
ห้องที่โดนแดดหรือใช้สำหรับการทำงาน อาจต้องพิจารณาอย่างละเอียดเพื่อความเหมาะสมกับขนาดห้องและการใช้งาน:
ประเภทของแอร์: เลือกตามลักษณะของห้อง ได้แก่ แอร์แขวนเพดานสำหรับห้องขนาดใหญ่, แอร์ตั้งพื้นเหมาะกับห้องที่ความสูงพอดี, และแอร์ฝังฝ้าเพดานที่เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่หรือห้องที่มีเพดานสูง
การคำนวณ BTU: ใช้สูตร BTU = พื้นที่ห้อง (กว้าง x ยาว) x ระดับความแตกต่าง ระดับความแตกต่างนี้จะขึ้นอยู่กับระดับความร้อนในช่วงเวลาต่างๆ ของวัน.
การเลือก BTU ที่เหมาะสม: ควรเลือก BTU ที่เหมาะสมกับขนาดห้องเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดและป้องกันปัญหาความชื้นสูงในห้องจากการใช้แอร์ที่ขนาดใหญ่เกินไป
ตัวอย่างการเลือก BTU
9,000 BTU เหมาะสำหรับห้องขนาด 12-15 ตร.ม. (ปกติ) และ 10-14 ตร.ม. (ห้องที่โดนแดด)
ห้องที่โดนแดดหรือใช้เป็นห้องทำงานอาจต้องการ BTU ที่สูงกว่าห้องปกติ เพื่อความเย็นที่เพียงพอและประหยัดพลังงาน.
การเลือกแอร์ที่เหมาะสมต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดและประหยัดพลังงาน. ข้อมูลเพิ่มเติมและรายละเอียดสามารถอ่านได้จากแหล่งข้อมูลต้นฉบับ
